1 ปี โลกร้อนขึ้นแค่ไหน!!!

1 ปี โลกร้อนขึ้นแค่ไหน สละเวลา 1 นาทีมาดูสิ่งที่เราทำไว้กับโลก

Climate Change ?

Climate Change  แปลเป็นไทยคือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ โดยปกติในธรรมชาติจะมีการเปลี่ยงแปลงของสภาพภูมิอากาศทุกหมื่นปีจากการเปลี่ยนแปลงองศาของวงโคจรโลกหรือเกิดขึ้นจากภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่ส่งผลกระทบกับสภาพแวดล้อมภายในโลกโดยตรง เช่น อุกกาบาตลูกยักษ์ใหญ่พุ่งชนโลก ภูเขาไฟลูกยักษ์ระเบิด หรือสงครามนิวเคลียร์ ถ้าหากไม่มีการกระทำเหล่านี้ก็แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศบนโลกสักเท่าไหร่ นอกจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่า มนุษย์

Cilmate ไม่ใช่ พยากรณ์อากาศวันนี้

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าโลกนั้นร้อน ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง แต่ทำไมที่บ้านฉันยังหนาวกว่าปีที่แล้วอยู่เลยละ มันแปลว่าโลกเย็นลงละซี่ จริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น Climate Change นั้นคือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เป็นในระยะยาวและใหญ่ กล่าวคือมันคือสภาวะภูมิอากาศของพื้นที่นั้น ๆ ในระยะยาว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศนั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่แน่นอนและอิงกันเป็นนัยยะสำคัญกับการกระทำของมนุษย์ ส่วนสภาพอากาศนั้นคือสภาพอากาศของวันนี้ที่ฝนตกและพรุ่งนี้ที่ฝนตก แน่นอนว่าวันนี้ฝนตกน้อยอากาศจึงร้อนกว่าวันพรุ่งนี้ ส่วนพรุ่งนี้เย็นกว่าวันนี้เพราะเมฆฝนลงมาปกคลุมมากกว่าวันนี้ นี้คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ถ้าเปรียบ Climate เป็นเหมือนมนุษย์ ส่วน สภาพอากาศ เป็นหมา การที่คุณพาหมาไปเดินเล่นบนชายหาดมันคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับหมามาก มันวิ่งไปทั่วทุกทิศทางและโชคดีที่มันวิ่งไปไหนไกลไม่ได้เพราะคุณจูงมันอยู่ คุณเดินไปข้างหน้าตรง ๆ ส่วนหมาของคุณนั้นเดินวิ่งไปทางซ้ายทีขวาทีหรือเดินไปทางใดทางหนึ่งก่อนสลับไปมา นี่คือตัวอย่างที่ดีในการอธิบาย เพราะ Climate นั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีรูปแบบ ส่วนสภาพอากาศนั้นเป็นเปลี่ยนได้ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือนและทุกปี มันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยตามสภาพแวดล้อมในตอนนั้นช่วงนั้น หมาสนใจทะเลก็วิ่งไปทะเล หมาสนใจคนที่นอนอยู่ริมชายหาดตากแดดอยู่ก็วิ่งไปที่คน นี่คือความแตกต่างของภูมิอากาศและสภาพอากาศ

ครั้งแรกที่อุณหภูมิลดลง

ปี 2017 เป็นปีแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ที่อุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีนัยยะสำคัญจากการกิจกรรมการปล่อยคาร์บอนของมนุษย์ โดยปี 2017 ที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกลดลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

กราฟแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระดับน้ำทะเลทั่วโลกตั้งแต่ปี 1880 ที่มา NASA

จะเห็นได้ว่าปี 2017 นั้นทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศออกมาว่าสภาพภาวะอากาศของประเทศไทยแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก  กล่าวคือปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปีของประเทศไทยในปีนี้สูงกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 27 และมีค่าสูงที่สุดในคาบ 67 ปี (พ.ศ.2494-2560) อีกทั้งในปีที่แล้วอากาศเย็นจากจีนลงทำให้อากาศในประเทศหนาวลง และมีฝนตกมากขึ้น นี่เป็นส่วนประกอบของการที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยลดลง ถึงแม้จะลงลดเพียงเล็กน้อยและมีทีท่าว่าจะร้อนขึ้นมากกว่าและสภาพอากาศจะแปรปรวนและเลวร้ายกว่าเดิมหากมนุษย์ยังคงปล่อยแก๊สคาร์บอนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากยิ่งขึ้นในระดับเดิม

คาร์บอนไดออกไซด์ทะลุสถิติอีกครั้ง

การที่อุณหภูมิโลกลดลงไม่ได้หมายความว่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์ปล่อยจะลดลง โดยนับตั้งแต่ปฏิวัติอุตสาหกรรม มนุษย์ได้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ทุกวันนี้ระดับของคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศนั้นมากสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่กำเนิดมนุษยชาติขึ้นมาบนโลก มันสูงกว่าเมื่อ 650,000 ปีก่อน

กราฟแสดงให้เห้นถึงระดับความเข้มข้นของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศตั้งแต่ปี 2005 ถึงปัจจุบัน ที่มา NASA

และดูทีท่าว่ามนุษย์จะทำลายสถิตินี้ต่อไปเรื่อยๆถ้าไม่การควบคุมหรือหยุดการปล่อยแก๊สเหล่านี้ออกสู่ชั้นบรรยากาศอย่างเข้มงวดและเคร่งครัด นักวิทยาศาสตร์คำนวนว่าอีกไม่เกิน 50 ปี หากมนุษย์ยังคงปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศอยู่ในระดับเพิ่มขึ้นที่คงที่ ระดับของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของเราจะเท่ากับในยุค Triassic อีกครั้ง

การหายไปของธารน้ำแข็งบนคิลิมันจาโร

ภูเขาไฟคิลิมันจาโรเป็นภูเขาไฟที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก มันเป็นภูเขาไฟที่สร้างสรรค์วัฒนธรรม ความเชื่อ และการท่องเที่ยว มันคือภูเขาไฟที่สวยงามมีสีขาวของน้ำแข็งอยู่บนยอดของคีรีมันจาโรตัดกับสีฟ้าของขอบฟ้า เป็นภาพที่สวยงามเกินคำบรรยาย น้ำแข็งบนภูเขาคือสายน้ำแห่งชีวิต คิลิมันจาโรคือภูเขาแห่งชีวิตและจิตใจของชาวแอฟริกาอย่างแท้จริง มันสร้างความมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวให้กับแทนซาเนียอย่างมหาศาล

ยอดเขาคิลิมันจาโรจากมุมสูง เผยให้เห็นน้ำแข็งสีขาวที่เป็นเอกลักษณ์ของคิลิมันจาโรที่เหลือให้เห็นเพียงบางตา

สิ่งหนึ่งที่มันกำลังหายไปจากคิลิมันจาโร ไม่ใช่นักท่องเที่ยวแต่เป็นธารน้ำแข็งบนยอดเขา ตั้งแต่ปี 1912 ธารน้ำแข็งบนคิลิมันจาโรหายไปอย่างรวดเร็ว เป็นเวลาร้อยกว่าปี ทุกวันนี้เราแทบไม่ได้เห็นน้ำแข็งสีขาวบนยอดเขาคิลิมันจาโรแล้ว

ขอบคุณบทความจาก https://spaceth.co/1-year-climate-change/